ในอดีต โอซาก้าเคยมีตลาดขนาดใหญ่
จึงถูกเรียกขานว่าเป็น “ครัวของโลก” เมืองนี้เจริญเติบโตด้วยภาคธุรกิจ
เช่น ร้านอาหารต่างๆ
และโอซาก้ายังเป็นจุดกำเนิดของอาหารญี่ปุ่นซึ่งทำมาจากแป้งและได้รับความนิยมอย่างสูง
เช่น พิซซ่าญี่ปุ่น และทาโกะยากิ นอกจากนี้ ที่เมืองโอซาก้ายังมีชาวต่างชาติที่มาอาศัยอยู่จำนวนมาก
และมีย่านชุมชนเกาหลีในบริเวณสึรุฮาชิ คุณจะได้เดินเที่ยวและชิมอาหารต่างๆ
เหมือนว่าคุณอยู่ในเกาหลีเลยทีเดียว
หากคุณเดินเที่ยวไป
คุณจะได้ยินจังหวะการพูดในบทสนทนา การพูดที่มีลักษณะสำเนียงท้องถิ่นในเขตคันไซ
เรียกว่า สำเนียงคันไซ (คันไซเบง)
ชาวญี่ปุ่นจะเชื่อมสำเนียงคันไซนี้ล้อไปกับนักแสดงตลก
และหนึ่งในเหตุผลก็คือนักแสดงตลกจำนวนมากในญี่ปุ่นนั้นมาจากเขตคันไซนี้เอง
แม้ว่าจะมีคำพูดว่ามันยากมากที่จะทำให้คนโอซาก้าหัวเราะ แต่ในทางกลับกัน
มันก็เป็นจริงมากว่าใจบริการของคนที่นี่มีสูงมาก
การแสดงสดต่อสาธารณะนั้นมีจัดมากมายในญี่ปุ่น
และผู้ที่อยากรับชมการแสดงตลกแบบญี่ปุ่นควรจะไปที่ Namba Grand Kagetsu หรือที่
Umeda Arts Theater
นอกเหนือจากวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว
เมืองโอซาก้ายังเป็นเมืองใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากมหานครโตเกียว
โอซาก้ามีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ห้างร้านสำหรับกินดื่ม อยู่ที่อุเมดะ
นัมบะและชินเซไก (โลกใบใหม่แห่งโอซาก้า)
โอซาก้าเป็นที่ตั้งของปราสาทของหนึ่งในสามผู้ปกครองของญี่ปุ่น ที่เรียกว่า
ปราสาทโอซาก้า มี Universal Studio Japan พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้า ไคยูคัง และหอคอยสึเท็นคาคุ
นอกเหนือจากนี้ โอซาก้ายังตั้งอยู่ไม่ไกลจากเกียวโตและนารา
โดยใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟเพียง 30-50 นาทีเท่านั้น
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้โอซาก้าเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวเช่นกัน
สนามบินที่ใกล้ที่สุดของเมืองโอซาก้าคือ
Osaka International Airport และ Kansai International
Airport มีเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศรองรับ
รวมถึงเที่ยวบินเชื่อมระหว่างโอซาก้าถึงสนามบินฮาเนดะในโตเกียวมากกว่า 10
เที่ยวบินต่อวันซึ่งใช้เวลาเดินทางแค่ 1 ชั่วโมง 15 นาที
คุณยังสามารถใช้บริการรถไฟด่วนชินคันเซนจากสถานี Shin-Osaka
ไปยังโตเกียวได้ภายใน 2 ชั่วโมง
30 นาทีเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก